15 November 2004
สรุปข้อสนเทศ : MCOT
มีความจำเป็นที่จะต้องลงทุนด้านการผลิตด้วย โดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือที่เป็นระบบ
ดิจิตอลเพื่อนำมาเปลี่ยนทดแทนของเดิมที่เป็นระบบอนาลอกไปแล้วเป็นจำนวนมากกว่าร้อยละ 50 ของงบประมาณ
ลงทุนที่ต้องใช้ในการดำเนินการตามแผนงานนี้ บริษัทประมาณว่า จะต้องมีการจัดสรรงบประมาณการลงทุนเพิ่มเติมอีก
จำนวนประมาณ 473 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในช่วงระยะเวลาอีก 4 ปีข้างหน้า
4. แผนงานขยายพื้นที่บริการกระจายเสียงและโทรทัศน์ทั่วประเทศ
บริษัทมีแผนงานที่จะขยายขอบเขตการให้บริการโทรทัศน์ของบริษัทให้ครอบคลุมพื้นที่จำนวนประมาณ 70,000
หมู่บ้านทั่วประเทศภายในปี 2550 โดยจะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีโทรทัศน์ที่มีอยู่เดิม ซึ่งบริษัทได้วางแผน
การปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีโทรทัศน์และการจัดตั้งสถานีทวนสัญญาณโทรทัศน์เพิ่มเติม โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ
ตั้งแต่ปี 2547 ถึง ปี 2550 รวมจำนวนสถานีทวนสัญญาณโทรทัศน์ที่บริษัทจะได้จัดตั้งเพิ่มขึ้นทั้งหมด 52 สถานี และม
ประชากรในเขตบริการเพิ่มขึ้นอีกจำนวนประมาณ 7,261 หมู่บ้าน ซึ่งเมื่อรวมกับพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมอยู่เดิม
จะทำให้ความสามารถในการให้บริการโทรทัศน์ครอบคลุมพื้นที่ คิดเป็นประมาณร้อยละ 97.3 ของพื้นที่ทั่วประเทศ
และมีประชากรในเขตบริการทั้งหมดประมาณ 70,000 หมู่บ้าน ซึ่งขณะนี้ บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างรอการพิจารณา
อนุมัติจัดตั้งสถานีจาก จากคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.)
สำหรับการขยายขอบเขตการให้บริการสถานีวิทยุกระจายเสียงของบริษัท บริษัทมีแผนงานที่จะขยายขอบเขต
การให้บริการสถานีวิทยุกระจายเสียงให้ครอบคลุมพื้นที่จำนวนประมาณ 70,000 หมู่บ้านทั่วประเทศภายในปี 2550
โดยจะทำการปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีเครือข่ายวิทยุกระจายเสียงที่มีอยู่เดิม รวมทั้งจัดตั้งสถานีเครือข่ายวิทยุ
กระจายเสียงใหม่เพิ่ม ซึ่งบริษัทได้วางแผนการจัดตั้งสถานีเครือข่ายวิทยุกระจายเสียงเพิ่มเติม โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ
ตั้งแต่ปี 2547 ถึง ปี 2550 รวมจำนวนสถานีเครือข่ายที่บริษัทจะได้จัดตั้งเพิ่มขึ้นทั้งหมด 65 สถานี และมีประชากรใน
เขตพื้นที่เป้าหมายที่ให้บริการเพิ่มขึ้นอีก 4,557 หมู่บ้าน ทำให้ความสามารถในการให้บริการกระจายเสียงของสถานี
เครือข่ายวิทยุ อสมท ครอบคลุมพื้นที่คิดเป็นประมาณร้อยละ 98.7 ของพื้นที่ทั่วประเทศ และมีประชากรในเขตพื้นที่
เป้าหมายที่ให้บริการทั้งหมดประมาณ 70,000 หมู่บ้าน แต่ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากอยู่ระหว่างรอการพิจารณา
อนุมัติจัดตั้งสถานีจาก คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์แห่งชาติ (กกช.) รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
5. แผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีเครื่องส่งวิทยุโทรทัศน์ส่วนภูมิภาค
บริษัทมีแผนงานที่จะจัดหาเครื่องส่งโทรทัศน์และอุปกรณ์ทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพ หมดอายุหรือไม่พร้อมใช้งาน
ซึ่งตามแผนงานจะเป็นการปรับปรุงสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ในภูมิภาคจำนวนประมาณ 14 แห่ง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุน
ประมาณ 169.4 ล้านบาท สำหรับการดำเนินการในช่วงระยะเวลา 2 - 3 ปี
6. แผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพสถานีวิทยุกระจายเสียงระบบ F.M. ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
บริษัทมีแผนงานที่จะจัดหาเครื่องจักรอุปกรณ์ทดแทนของเดิมที่เสื่อมสภาพ หมดอายุ หรือไม่พร้อมใช้งาน ตลอดจน
จัดหาระบบไฟฟ้าสำรอง (UPS) และจัดหาเครื่องส่งวิทยุ F.M. เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและพัฒนาเครื่องจักรอุปกรณ์ที่
เสื่อมสภาพจากการใช้งานเป็นเวลานาน รวมถึงจัดเตรียมให้มีระบบไฟฟ้าสำรองและระบบเครื่องส่งที่ประหยัดพลังงานและ
ค่าใช้จ่าย ไว้ให้พร้อมสำหรับใช้ประกอบกิจการเชิงธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนจำนวนประมาณ
530 ล้านบาท โดยจะเป็นการทยอยลงทุนในช่วงระยะเวลา 2 - 3 ปีข้างหน้า
7. แผนงานการพัฒนาพื้นที่เพื่อรองรับการขยายงานในส่วนกลาง และการจัดหาอุปกรณ์เพื่อพัฒนาศักยภาพในการผลิต
และจัดหารายการรวมทั้งเพื่อป้อนให้แก่สื่อต่าง ๆ ของบริษัท
บริษัทมีแผนงานที่จะพัฒนาพื้นที่ในส่วนกลางโดยเฉพาะบริเวณสำนักงานใหญ่เพื่อรองรับการขยายงานที่จะมีขึ้นในอนาคต
และจะได้ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องติดตั้งประจำอาคาร เพื่อให้อาคารปฏิบัติการด้านโทรทัศน์และ
วิทยุกระจายเสียงซึ่งได้ก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2547 มีวัสดุเครื่องมืออุปกรณ์ด้านเทคนิคทันสมัย พร้อมปฏิบัติงาน
ทั้งด้านโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และข่าวอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถให้บริการสื่อสารมวลชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งบริษัทคาดว่าจะใช้เงินลงทุนตามแผนงานนี้ตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เป็นจำนวนรวมกันประมาณ 1,062 ล้านบาท
รายการระหว่างกัน
1. รายการระหว่างกันกับบริษัทย่อย และบริษัทที่เกี่ยวข้อง
บมจ. อสมท มีรายการระหว่างกันสำหรับรอบบัญชีปี 2546 และรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547 กับบริษัทย่อย
และบริษัทที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1.1 รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกับบริษัทย่อย
เป็นรายการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการดำเนินงานด้านโทรทัศน์และวิทยุ สำหรับรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547
บริษัทย่อย : บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- บมจ. อสมท ถือหุ้นร้อยละ 49.0
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ นางอรอนงค์ มณีกาญจน์ และนายธงทอง จันทรางศุ)
เป็นกรรมการของบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด
- ผู้บริหารของ บมจ. อสมท (นางอรัญรัตน์ อยู่คง) เป็นกรรมการของบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด
ลักษณะของรายการ :
- บมจ. อสมท จ้างบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด เพื่อดำเนินการผลิตรายการให้แก่บริษัทโดยได้ชำระค่า
จ้างสำหรับการดำเนินงานดังกล่าวแล้วมูลค่ารายการระหว่างกัน: 2,170,000 บาท
- โดยมีเป็นค่าจ้างผลิตรายการที่ บมจ. อสมท ยังมิได้ ชำระให้แก่บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ซึ่งบริษัท
ได้บันทึกบัญชีเป็นรายการเจ้าหนี้การค้า
มูลค่ารายการระหว่างกัน :
ก. รายการเจ้าหนี้การค้า จำนวน 529,650 บาท
ข. รายการเจ้าหนี้อื่น จำนวน 1,170,000 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดราคาค่าจ้างผลิตรายการที่ชำระให้แก่บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด กำหนดในอัตรา
ตามปกติของธุรกิจเช่นเดียวกับที่กำหนดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
1.2 รายการส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง
เป็นรายการส่วนแบ่งรายได้ที่ บมจ. อสมท ได้รับอันเนื่องมาจากสัญญาร่วมดำเนินกิจการกับบริษัทที่เกี่ยวข้องตาม
ที่ระบุ สำหรับรอบปี 2546 และรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547
1.2.1 บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- ผู้บริหารของ บมจ. อสมท (นางอรัญรัตน์ อยู่คง) เป็นกรรมการของบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
บมจ. อสมท เข้าทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุและให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับเป็น
สมาชิกกับบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดยตามสัญญาดังกล่าว บริษัท ยูไนเต็ด บรอด-
คาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมดำเนินกิจการจะต้องแบ่งรายได้จากการดำเนินกิจการดังกล่าว
ให้แก่ บมจ. อสมท
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 291,262,370 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 152,596,242 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
ส่วนแบ่งรายได้ที่ บมจ. อสมท ได้รับจากบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เป็นไปตามสัญญา โดยมีอัตราเช่นเดียวกับที่ผู้ร่วมดำเนินกิจการรายอื่นได้รับจากบริษัท และเงื่อนไขตามสัญญา
ก็ไม่แตกต่างกับผู้ร่วมดำเนินกิจการที่เป็นบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
1.2.2 บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท ยูบีซี เคเบิ้ล เน็ตเวอร์ค จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- ผู้บริหารของ บมจ. อสมท (นางอรัญรัตน์ อยู่คง) เป็นกรรมการของบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง
คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
บมจ. อสมท เข้าทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุและให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับ
เป็นสมาชิกกับบริษัท ยูบีซี เคเบิ้ลเน็ตเวอร์ค จำกัด (มหาชน) โดยตามสัญญาดังกล่าว บริษัท ยูบีซี เคเบิ้ล เน็ตเวอร์ค
จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้ร่วมดำเนินกิจการจะต้องแบ่งรายได้จากการดำเนินกิจการดังกล่าวให้แก่ บมจ. อสมท
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 142,491,967 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 70,138,787 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
ส่วนแบ่งรายได้ที่ บมจ. อสมท ได้รับจากบริษัท ยูบีซี เคเบิ้ล เน็ตเวอร์ค จำกัด (มหาชน) เป็นไปตามสัญญา
โดยมีอัตราเช่นเดียวกับที่ผู้ร่วมดำเนินกิจการรายอื่นได้รับจากบริษัท และเงื่อนไขตามสัญญาก็ไม่แตกต่างกับผู้ร่วม
ดำเนินกิจการที่เป็นบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
1.2.3 บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) มีฐานะเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
โดยตำแหน่ง ตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา
ลักษณะของรายการ :
บมจ. อสมท เข้าทำสัญญาร่วมดำเนินกิจการสถานีโทรทัศน์ สถานีวิทยุและให้บริการโทรทัศน์ระบบบอกรับ
เป็นสมาชิกกับบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด โดยตามสัญญาดังกล่าว บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์
จำกัด ในฐานะผู้ร่วมดำเนินกิจการจะต้องแบ่งรายได้จากการดำเนินกิจการดังกล่าวให้แก่ บมจ.อสมท
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 58,461,250 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 31,294,375 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
ส่วนแบ่งรายได้ที่ บมจ. อสมท ได้รับจากบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เป็นไปตามข้อกำหนด
ในสัญญา
2. รายการระหว่างกันกับบริษัทที่กรรมการของ บมจ. อสมท เข้าไปเป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ
บริษัทนั้น
บมจ. อสมท มีรายการระหว่างกันกับบริษัทที่ระบุ สำหรับรอบบัญชีปี 2546 และรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547 ดังนี้
2.1 รายการรายได้จากการดำเนินการ
เป็นรายการที่ บมจ. อสมท ขายสินค้าหรือให้บริการแก่บริษัทที่ระบุ
บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายรองพล เจริญพันธุ์) เป็นกรรมการของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จ้างให้ บมจ. อสมท ดำเนินการโฆษณาให้โดยมูลค่ารายการที่แสดงไว้เป็น
จำนวนค่าจ้างตามสัญญาทั้งหมดที่ บมจ. อสมท มีสิทธิได้รับจากบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 4,831,585 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 7,931,315 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดราคาค่าจ้างเป็นอัตราตามปกติทางธุรกิจเช่นเดียวกับที่คิดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
2.2 รายการลูกหนี้อื่น ๆ
เป็นรายการที่ บมจ. อสมท เป็นเจ้าหนี้อื่น ๆ กับบริษัทที่ระบุ
2.2.1 บริษัทที่เกี่ยวข้อง : บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายรองพล เจริญพันธุ์) เป็นกรรมการของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) จ้างให้ บมจ. อสมท ดำเนินการโฆษณาให้ โดยจำนวนมูลค่ารายการที่แสดงไว้
เป็นจำนวนเงินที่บริษัท กสท โทร-คมนาคม จำกัด (มหาชน) ยังมิได้ชำระเงินค่าจ้างให้ บมจ. อสมท
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 2,838,620 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 8,672,360 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดราคาเป็นอัตราตามปกติทางธุรกิจเช่นเดียวกับที่คิดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
2.2.2 บริษัทที่เกี่ยวข้อง : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) เป็นกรรมการของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ลักษณะของรายการ :
เป็นรายการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซื้อโฆษณาจาก บมจ. อสมท
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 2,803,738.32 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 11,853738.32 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดราคาค่าโฆษณาเป็นไปตามอัตราปกติทางธุรกิจเช่นเดียวกับที่คิดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
2.3 รายการเจ้าหนี้อื่น ๆ
เป็นรายการที่ บมจ. อสมท เป็นลูกหนี้อื่น ๆ กับบริษัทที่ระบุบริษัทที่เกี่ยวข้อง: บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายรองพล เจริญพันธุ์) เป็นกรรมการของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
บมจ. อสมท จ้างบริษัท กสท โทร-คมนาคม จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินการส่งสัญญาณโทรทัศน์ผ่าน
ดาวเทียมโดย บมจ. อสมท ยังมิได้ชำระค่าจ้างดังกล่าว
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : -
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 200,000 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดราคาค่าจ้างเป็นอัตราตามปกติทางธุรกิจเช่นเดียวกับที่คิดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
2.4 รายการค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
เป็นรายการที่ บมจ. อสมท ชำระค่าธรรมเนียมในการให้บริการกับบริษัทที่ระบุ สำหรับรอบปี 2546 และรอบ
6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547
บริษัทที่เกี่ยวข้อง : ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท :
- กรรมการของ บมจ. อสมท (นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม) เป็นกรรมการของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
ลักษณะของรายการ :
เป็นรายการที่ บมจ. อสมท ใช้บริการด้านการธนาคารต่าง ๆ จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
และจ่ายค่าธรรมเนียมการใช้บริการเหล่านั้นให้แก่ธนาคาร เช่น บริการโอนเงิน ค่าสมุดเช็ค เป็นต้น
มูลค่ารายการระหว่างกัน
รอบบัญชีปี 2546 : 608,338.73 บาท
รอบ 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2547 : 536,964.85 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา :
การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมที่ บมจ. อสมท ต้องชำระให้แก่ธนาคารกรุงไทยเป็นอัตราตามปกติของ
ธุรกิจเช่นเดียวกับที่ธนาคารกรุงไทยกำหนดกับบุคคลหรือกิจการอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
3. รายการระหว่างกันระหว่างบริษัทย่อยกับกรรมการของบริษัทย่อย
- รายการเงินยืมระยะสั้นของกรรมการ
เป็นรายการเงินกู้ยืมระยะสั้นที่บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. อสมท กู้ยืมจากกรรม
การของบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด สำหรับรอบ 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2547
บริษัท/บุคคลที่เกี่ยวข้อง : นางสาวลักษณา จีระจันทร์
ความสัมพันธ์กับ บมจ. อสมท : เป็นผู้บริหารของบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด
ลักษณะของรายการ : เป็นการที่บริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด กู้ยืมไปเพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน
มูลค่ารายการระหว่างกัน : 400,000 บาท
เงื่อนไข/นโยบายราคา : เป็นเงินกู้ประเภทไม่มีดอกเบี้ย
ภาระผูกพัน
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญาจ้างเหมาบริการและสัญญาเช่าที่มีอายุน้อยกว่า 1 ปีตามงบการเงินรวมสำหรับงวด
สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 เป็นจำนวน 40,930,000 บาทและมีภาระผูกพันตามสัญญาจ้างเหมาบริการและสัญญา
เช่าที่มีอายุตั้งแต่ 1 - 5 ปีเป็นจำนวน 55,390,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 96,320,000 บาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีภาระ
ผูกพันตามรายจ่ายฝ่ายทุนตามงบการเงินรวมสำหรับงวดสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2547 เพื่อค่าก่อสร้างอาคาร
ปฏิบัติการจำนวน 33,520,000 บาทและค่าอุปกรณ์จำนวน 514,680,000 บาท รวมจำนวนทั้งสิ้น 548,200,000 บาท
ปัจจัยเสี่ยง
1. ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและการดำเนินธุรกิจของบริษัท
1.1 การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในการจัดสรรคลื่นความถี่และการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและ
กิจการโทรทัศน์
- ขณะนี้กฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์นี้กำลังอยู่ในกระบวนการของ
การยกร่างเพื่อที่จะนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป จึงอาจส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในกฎหมาย
ว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
- ขณะนี้อยู่ในระหว่างกระบวนการสรรหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
และกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ ("กสช.") เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
จึงอาจมีความไม่แน่นอนในการกำกับดูแลการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์
- หากในอนาคตได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และ/หรือ
มีการแต่งตั้ง กสช. และคณะกรรมการร่วมตาม พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ ขึ้นมาแล้ว บริษัทไม่สามารถรับรอง
ได้ว่า อำนาจ สิทธิ และประโยชน์ในการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ของบริษัทที่เคยได้รับการยกเว้น
ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และกฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมดังกล่าวข้างต้น
รวมถึงสิทธิตามใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขตามบทบัญญัติแห่ง
กฎหมายว่าด้วยวิทยุคมนาคมจะถูกกระทบกระเทือนหรือไม่
- ในอนาคต หากบริษัทต้องเป็นผู้รับใบอนุญาตภายใต้เงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบ
กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่จะได้มีการตราขึ้น รวมทั้งข้อกำหนดของ กสช. ตาม พรบ. องค์กรจัดสรรคลื่น
ความถี่ฯ แล้ว บริษัทอาจจะต้องแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นในธุรกิจบันเทิง สื่อวิทยุ และโทรทัศน์ในการยื่นขอรับ
ใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์จากองค์กรอิสระที่มีอำนาจตามกฎหมาย และบริษัทอาจจะ
ต้องมีการจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตต่าง ๆ ที่ใช้ในการประกอบกิจการตามอัตราที่ กสช. กำหนด ซึ่งบริษัทไม่อาจ
รับรองได้ว่าจะเป็นค่าตอบแทนเป็นจำนวนมากหรือน้อยเพียงใด
1.2 ภาระหน้าที่และสิทธิตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการ สัญญาร่วมลงทุนหรือสัญญาอื่นใดที่มีต่อบริษัท สำหรับ
ผู้ประกอบการเอกชนที่เป็นคู่สัญญาอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ที่ได้รับจากการร่วมดำเนินกิจการกับผู้ประกอบการเอกชนอื่นตามสัญญาร่วม
ดำเนินกิจการ ซึ่งมาจาก 2 กิจการหลักที่สำคัญ ได้แก่ กิจการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 อสมท และกิจการโทรทัศน์
ระบบบอกรับเป็นสมาชิกที่ได้ดำเนินการร่วมกับกลุ่มบริษัท ยูไนเต็ด บรอดคาสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
หรือ กลุ่มยูบีซี โดยที่สัญญาร่วมดำเนินกิจการดังกล่าวยังเป็นสัญญาในลักษณะของสัญญาประเภทสร้าง โอนกรรมสิทธิ์
และดำเนินงาน โดยทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการเอกชนซึ่งเป็นคู่สัญญาได้จัดซื้อหรือสร้างขึ้นเพื่อใช้ในการประกอบกิจการ
ตามสัญญาร่วมดำเนินการจะต้องทำการโอนกรรมสิทธิ์ในเครื่องมือเฉพาะอุปกรณ์หรือสิ่งปลูกสร้างนั้นให้เป็นทรัพย์สิน
ของบริษัทตามกำหนดระยะเวลาในสัญญา ดังนั้น บริษัทจึงไม่อาจรับรองได้ว่า คู่สัญญาของบริษัทจะไม่ยกเหตุที่มีการ
แปลงสภาพองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยทั้งองค์กรเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือมีการแต่งตั้ง กสช. แล้วเสร็จ
เพื่อใช้เป็นข้ออ้างปฏิเสธการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท
1.3 การประกอบธุรกิจของบริษัทต้องอาศัยและพึ่งพาผู้ประกอบการภายนอกบางส่วน โดยเฉพาะบริษัทผู้จัดและ
ผู้ผลิตรายการอิสระในการผลิตและจัดหารายการเพื่อป้อนเป็นวัตถุดิบให้แก่สถานีโทรทัศน์
- หากบริษัทผู้จัดและบริษัทผู้ผลิตรายการเหล่านี้ไม่สามารถสร้างสรรรายการให้เป็นที่พึงพอใจของผู้ชมได้
หรือไม่สามารถทำการผลิตหรือจัดหารายการเพื่อป้อนให้แก่บริษัทได้อีกต่อไป ก็อาจส่งผลต่อศักยภาพและความ
สามารถของบริษัทในการจัดหารายการที่มีคุณภาพ ที่จะทำให้เกิดผลกระทบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญต่อการดำเนินงาน
ของบริษัท
1.4 ผลการดำเนินงานของบริษัทขึ้นอยู่กับภาวะอุตสาหกรรมโฆษณา
- เนื่องจาก ในปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทเป็นรายได้จากการขายโฆษณา และจะมีรายได้บางส่วนที่มาจาก
การให้เช่าเวลา ดังนั้น ผลการดำเนินงานของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับความนิยมของผู้ชม และภาวะอุตสาหกรรมโฆษณา
โดยทั่วไป ดังนั้น บริษัทไม่อาจรับรองได้ว่า บริษัทจะสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมโฆษณา
เพื่อรักษาหรือแย่งชิงส่วนแบ่งรายได้จากการขายโฆษณาที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคตนี้ได้
1.5 การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และผังรายการ รวมถึงการสร้างบุคลิกของสถานีโทรทัศน์ที่จะมีขึ้นในอนาคตอาจ
ไม่ได้รับผลตอบสนองที่ดีจากผู้ชมเหมือนเช่นที่ผ่านมา และบริษัทอาจไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลง
ที่รวดเร็วในพฤติกรรมและกระแสความนิยมของผู้ชม
- เนื่องจากผู้ประกอบการรายอื่นที่ให้บริการสื่อโทรทัศน์ต่างก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และผังรายการ
ของตนเช่นกัน เพื่อที่จะช่วงชิงทั้งกลุ่มผู้ชมเป้าหมายและเม็ดเงินที่ใช้จ่ายด้านโฆษณาของผู้โฆษณาต่าง ๆ รวมทั้งพฤติกรรม
และกระแสความนิยมของผู้ชมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น บริษัทจึงไม่สามารถรับรองได้ว่า
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และผังรายการในอนาคตของบริษัทจะประสบความสำเร็จเหมือนเช่นเดียวกันกับการปรับเปลี่ยน
ที่ผ่านมา
1.6 บริษัทอาจไม่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโครงการ MCOT Television หรือ MCOT TV และเงินลงทุน
ที่ต้องใช้ในโครงการนี้อาจสูงกว่าที่บริษัทคาดหมาย
- โครงการ MCOT TV นี้อาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก ทั้งยังจะต้องอาศัยบุคลากร
ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการดำเนินงาน เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการใหม่สำหรับบริษัท ประกอบกับ
บริษัทและบุคลากรที่มีอยู่ก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์ในการดำเนินโครงการในลักษณะเช่นนี้ และบริษัทยังคาดว่า
การดำเนินการตามโครงการนี้จะต้องแข่งขันกับคู่แข่งในต่างประเทศที่มีความพร้อมทั้งเงินทุน เทคโนโลยี บุคลากรและ
ประสบการณ์ ด้วยเหตุต่าง ๆ ดังกล่าว บริษัทจึงไม่อาจรับรองได้ว่า หากบริษัทได้ตัดสินใจที่จะดำเนินโครงการนี้แล้ว
ความพยายามของบริษัทในการพัฒนาโครงการนี้จะประสบความสำเร็จและบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมาย
ไว้หรือไม่ และเงินที่จำเป็นต้องใช้ในการลงทุนโครงการดังกล่าวอาจเกินกว่างบประมาณที่บริษัทตั้งไว้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบ
ต่อรายจ่ายลงทุนของบริษัทในอนาคตได้
1.7 บริษัทไม่เคยดำเนินงานในรูปแบบของบริษัทมหาชนจำกัดเนื่องจาก บมจ. อสมท เป็นบริษัทที่แปลงสภาพ
มาจากองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา
- คณะกรรมการและผู้บริหารของ บมจ. อสมท ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบธรรมาภิบาลและการกำกับดูแล
(ยังมีต่อ)