EN
TH

เมนู

30 พฤศจิกายน 2547

คำอธิบายงบการเงินประจำปีเปรียบเทียบปี 2547 - 2546

คำอธิบายและการวิเคราะห์งบการเงินสำหรับผลการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ 2547 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 เปรียบเทียบกับปีงบประมาณ 2546 ผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย จากการที่บริษัทได้ปรับปรุงรูปแบบการดำเนินธุรกิจ พัฒนาสินค้า และองค์กรให้มี ความทันสมัย และปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันด้านต่างๆ ให้สูงขึ้น อย่าง ต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2545 เป็นต้นมา ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2547 ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยบริษัทมีรายได้จากการดำเนินงาน รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,757 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 856 ล้านบาท หรือคิดเป็น 45.0% มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA)จำนวน 1,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 370 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.0% และมีกำไรสุทธิทั้งสิ้นจำนวน 1,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี งบประมาณ 2546 จำนวน 290 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.9% หน่วย:ล้านบาท2547 2546เปลี่ยนแปลง จำนวนอัตรา รายได้จากการดำเนินงาน2,7571,90185645.0% - โทรทัศน์1,7601,03073070.9% - วิทยุ42732210532.6% - ร่วมดำเนินกิจการ570549213.8% EBITDA(1)1,29692637040.0% กำไรสุทธิ1,05676629037.9% กำไรสุทธิ ต่อ หุ้น(2)1.761.28 (1) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) คิดจาก กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีเงินได้บวกด้วยค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ที่ใช้ใน การดำเนินงานของกลุ่มบริษัท (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ภายใต้สัญญา ร่วมดำเนินกิจการ) (2) กำไรสุทธิ ต่อ หุ้น คิดจากหุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรทัศน์เป็นสินค้าตัวแรกที่บริษัทได้ทำการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงาน ด้วยสร้างบุคลิกใหม่ที่แตกต่าง ภายใต้แนวคิด ?สถานีโทรทัศน์แห่งความทันสมัย หรือ โมเดิร์นไนน์ทีวี (Modernine TV)? และทำการปรับผังรายการอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ 6 เดือน โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าสู่การปรับปรุงระยะที่ 5 ภายใต้แนวคิด สังคมอุดมปัญญา (Knowledge-based Society)? นอกจากการพัฒนา ตัวสินค้าแล้ว บริษัทได้ปรับลดสัดส่วนการให้เช่าเวลาออกอากาศลง และปรับเพิ่ม สัดส่วนรายการที่ผลิตเอง หรือรายการที่ร่วมผลิตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัท สามารถเพิ่มพื้นที่การขายโฆษณาได้มากขึ้น ประกอบกับการที่บริษัทดำเนินกลยุทธ การตลาดเชิงรุก (Proactive Marketing) ซึ่งมุ่งเน้นการสนองความต้องการของลูกค้า แต่ละกลุ่ม แต่ละราย (Tailor-made Concept) และการผสมผสานสื่อของบริษัท (Cross-media strategy) ในลักษณะของการสื่อสารทางการตลาดเชิงบูรณาการ (Integrated Marketing Communication: IMC) ทำให้บริษัทสามารถเพิ่มยอดขายได้ อย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2547 รายได้จากบริการทางโทรทัศน์มีจำนวน รวมทั้งสิ้น 1,760 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 730 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70.9% โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าโฆษณาที่มีจำนวน ทั้งสิ้น 1,325 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 675 ล้านบาท หรือคิดเป็น 103.9% ตามเหตุผลที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น หน่วย:ล้านบาท2547 2546เปลี่ยนแปลง จำนวนอัตรา รายได้จากบริการทางโทรทัศน์ - รายได้ค่าเช่าเวลา300317(17)-5.4% - รายได้ค่าโฆษณา1,325650675103.9% - รายได้จากโครงการต่างๆ97564173.2% - รายได้จาการดำเนินงานอื่น38731442.9% รวมรายได้จากบริการทางโทรทัศน์1,7601,03073070.9% กิจการวิทยุ นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2546 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติเห็นชอบให้บริษัทเริ่ม ดำเนินการเข้าบริหารกิจการวิทยุด้วยตัวเองทั้งหมด เพื่อเป็นการบริหารทรัพย์สิน ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยบริษัทจะนำเวลาที่เคยให้ผู้ประกอบการเอกชน เช่ากลับมาทำการบริหารจัดการเองทั้งหมด สำหรับสถานีวิทยุในส่วนกลาง บริษัท คาดว่าจะสามารถดำเนินการบริหารสถานีในส่วนกลาง 6 สถานีได้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป การบริหารงานกิจการวิทยุจะดำเนินภายใต้ แนวคิด ?โมเดิร์นเรดิโอ (Modern Radio)? โดยการกำหนดให้สถานีวิทยุ แต่ละสถานีมี บุคลิก และกลุ่มผู้ฟังเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อวางตำแหน่งสถานีวิทยุของบริษัทให้ แตกต่างจากคู่แข่ง พร้อมทั้งจัดให้มีผู้จัดการสถานี (Station Manager) ที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะทาง เข้ามาเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารสถานีวิทยุแต่ละสถานี ให้สอดคล้องกับบุคลิกของสถานีนั้นๆ สำหรับรายได้จากการบริการทางวิทยุในปี งบประมาณ 2547 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 427 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 105 ล้านบาท หรือคิดเป็น 32.6% โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ ค่าโฆษณาที่มีจำนวนทั้งสิ้น 399 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 99 ล้านบาท หรือคิดเป็น 33.0% ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทสามารถเพิ่มพื้นที่ขายโฆษณา ได้มากขึ้น โดยเฉพาะการขายโฆษณาของรายการที่ออกอากาศผ่านเครือข่ายสถานีวิทยุ ของบริษัททั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ หรือที่เรียกว่า ?รายการ วิทยุเครือข่าย? และบริษัทยังได้ทยอยปรับอัตราค่าโฆษณาสำหรับรายการวิทยุเครือข่าย เพิ่มขึ้นอีกด้วย หน่วย:ล้านบาท2547 2546เปลี่ยนแปลง จำนวนอัตรา รายได้จากบริการทางวิทยุ - รายได้ค่าเช่าเวลา1822(4)-18.2% - รายได้ค่าโฆษณา3993009933.0% - รายได้จากโครงการต่างๆ9-9N/A - รายได้จาการดำเนินงานอื่น1-1N/A รวมรายได้จากบริการทางวิทยุ42732210532.6% ธุรกิจตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการ สำหรับรายได้จากการร่วมดำเนินกิจการนั้น ประกอบด้วยรายได้ 2 ส่วนคือ ส่วนแบ่ง รายได้จากการร่วมดำเนินกิจการ และรายได้จากสินทรัพย์รับโอนตัดบัญชี โดยรายได้ จากการร่วมดำเนินกิจการ ในปีงบประมาณ 2547 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 570 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 21 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.8% โดยสาเหตุ หลักมาจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการกับกลุ่ม UBC เนื่องจาก กลุ่ม UBC มีรายได้ค่าบริการเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่วนแบ่งรายได้จะคิดคำนวณ ในอัตราร้อยละ 6.5 ของรายได้ทั้งหมดแต่ละปีของ กลุ่ม UBC ก่อนหักค่าใช้จ่ายใดๆ หน่วย:ล้านบาท2547 2546เปลี่ยนแปลง จำนวนอัตรา รายได้จากการร่วมดำเนินกิจการ - BEC6458610.3% - กลุ่ม UBC (ประกอบด้วย UBC และ UBCC)456434225.1% - อื่นๆ18(7)-87.5% รวมส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญาร่วมฯ521500214.2% รายได้จากสินทรัพย์รับโอนตัดบัญชี4949-0.0% รวมรายได้จากการร่วมดำเนินกิจการ570549213.8% กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) บริษัทมี EBITDA จากการดำเนินกิจการในปีงบประมาณ 2547 จำนวน 1,296 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 370 ล้านบาท หรือคิดเป็น 40.0% เนื่องมาจาก การเพิ่มขึ้นอย่างมากของรายได้จากการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุตามที่ได้กล่าวมา แล้วข้างต้น ประกอบการกับที่บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ และบุคลากรที่มี อยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของการดำเนินงานธุรกิจโทรทัศน์ ในรูปแบบการร่วมผลิต (Time Sharing หรือ Revenue Sharing) นั้น บริษัทสามารถเพิ่ม พื้นที่การขายโฆษณาได้ โดยไม่ต้องลงทุนด้านการผลิตเอง ทำให้ EBITDA เพิ่มขึ้น อย่างมาก สำหรับค่าใช้จ่ายด้านพนักงานในปีงบประมาณ 2547 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 696 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 247 ล้านบาท หรือคิดเป็น 55.02% ซึ่งการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากค่าปฏิบัติงานล่วงเวลาที่เพิ่มขึ้น การปรับฐานเงินเดือน ในเดือนมิถุนายน 2547 โบนัสที่เพิ่มขึ้น การนำบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด มาจัดทำงบการเงินรวม และส่วนหนึ่งมาจากจำนวนพนักงานที่เพิ่มขึ้น อนึ่ง ใน ปีงบประมาณ 2547 บริษัทมีค่าใช้จ่ายพิเศษที่เป็นการจ่ายครั้งเดียวคือ ค่าใช้จ่าย ที่เกี่ยวข้องกับการแปลงสภาพจำนวน 23 ล้านบาท กำไรสุทธิ บริษัทมีกำไรสุทธิ ในปีงบประมาณ 2547 จำนวน 1,056 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 290 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.9% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างมาก ของรายได้จากการดำเนินงานโทรทัศน์และวิทยุ และ EBITDA ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น สำหรับค่าเสื่อมราคาในปีงบประมาณ 2547 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 250 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ปีงบประมาณ 2546 จำนวน 41 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.6% ซึ่งสาเหตุหลักในการ เพิ่มขึ้นมาจากการรับโอนอาคารปฏิบัติการใหม่ซึ่งแล้วเสร็จในเดือนมกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้บริษัทได้เริ่มจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 30% ภายหลังการแปลงสภาพ เป็นบริษัทมหาชนจำกัด ณ วันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมาจำนวนรวมทั้งสิ้น 40 ล้านบาท หน่วย:ล้านบาท2547 2546เปลี่ยนแปลง จำนวนอัตรา ค่าใช้จ่ายพนักงาน 69644924755.0% ค่าเสื่อมราคาของ อาคาร และ อุปกรณ์ - สินทรัพย์ที่ใช้ดำเนินงานของ อสมท2011604125.6% - สินทรัพย์ภายใต้สัญญาร่วมดำเนินกิจการ4949-- รวมค่าเสื่อมราคา2502094119.6% การวิเคราะห์ฐานะทางการเงินของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย สินทรัพย์ ณ 30 กันยายน 2547 บริษัทมีสินทรัพย์มูลค่ารวมทั้งสิ้น 6,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 953 ล้านบาทจาก ณ สิ้นปีงบประมาณ 2546 หรือคิดเป็น 18.3% เนื่องจากการ เพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ จำนวน 1,422 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ผลมาจากการซื้อที่ดินจำนวน 51 ไร่บริเวณตรงข้ามสำนักงานใหญ่ของบริษัท เพื่อรองรับการขยายงานในอนาคต และการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้การค้าจำนวน 213 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากธุรกรรมและรายได้จากการดำเนินงานของบริษัท ที่เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นดังกล่าวถูกหักกลบบางส่วนด้วยการลดลงของเงินสดจำนวน 586 ล้านบาท และเงินลงทุนระยะสั้นจำนวน 156 ล้านบาท จากการจ่ายชำระ ค่าซื้อที่ดินดังกล่าว หนี้สิน บริษัทมีหนี้สิน ณ สิ้นปีงบประมาณ 2547 รวมทั้งสิ้น 1,882 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 550 ล้านบาท จาก ณ สิ้นปีงบประมาณ 2546 หรือคิดเป็น 41.3% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินนำส่งกระทรวงการคลังค้างจ่าย ภาษี เงินได้ค้างจ่าย ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย และหนี้สินหมุนเวียนอื่น ซึ่งเกิดจากธุรกรรม และผลการดำเนินงานของบริษัทที่สูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทไม่มีเงินกู้ยืมที่มี ภาระดอกเบี้ยใดๆ ส่วนของผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 สิงหาคม 2547 องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทยได้แปลง สภาพเป็นบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ตามพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2547 ในการแปลงสภาพดังกล่าว ได้มีการแปลงทุนเป็นทุนเรือนหุ้นโดยมีทุนจดทะเบียน เริ่มแรกในการจัดตั้งบริษัท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นสามัญจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท และ ส่วนที่เหลือโอนเป็นกำไรสะสม พร้อมทั้งตั้งสำรองตามกฎหมายจำนวน 300 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2547 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 4,279 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 403 ล้านบาทจาก ณ สิ้นปีงบประมาณ 2546 หรือคิดเป็น 10.4% ซึ่งเป็นผลมาจากกำไรสุทธิของบริษัท (ภายหลังการหักสำรองเงิน นำส่งกระทรวงการคลังค้างจ่าย) สภาพคล่อง ในปีงบประมาณ 2547 บริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจำนวน 1,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2546 จำนวน 276 ล้านบาท สาเหตุหลักเนื่องจากการเพิ่มขึ้น ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน บริษัทมีกระแสเงินสดจ่ายไปในกิจกรรมการลงทุนจำนวน 1,303 ล้านบาท ส่วนใหญ่ เป็นการลงทุนในการซื้อที่ดินจำนวน 51 ไร่เพื่อเตรียมรองรับการขยายงานของบริษัท และซื้อเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับอาคารปฏิบัติการใหม่ ในส่วนของกระแสเงินสดจ่ายไปในกิจกรรมจัดหาเงินจำนวน 464 ล้านบาท นั้น เป็น การนำส่งเงินให้กระทรวงการคลังสำหรับผลการประกอบการในปีงบประมาณ 2546 จำนวน 469 ล้านบาท หักกลบบางส่วนจากเงินสดรับจากการลงทุนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย ในบริษัทย่อย งบการเงินสำหรับปีงบประมาณ 2546 เป็นเพียงงบการเงินเฉพาะองค์การสื่อสาร มวลชนแห่งประเทศไทย ในขณะที่งบการเงินสำหรับปีงบประมาณ 2547 เป็น งบการเงินรวมที่รวมผลการดำเนินงานของบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทด้วย โดยบริษัทได้มีการลงทุนในบริษัท พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ จำกัด เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2546 บริษัทได้จัดแสดงตัวเลขงบการเงิน รวมสำหรับปีงบประมาณสิ้นสุด 30 กันยายน 2547 โดยนำผลการดำเนินงานจาก งบการเงินรวมตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2546 ถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2547 ในขณะที่ยัง เป็นองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย มารวมกับผลการดำเนินงานจาก วันที่ 17 สิงหาคม 2547 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2547 ซึงเป็นงวดบัญชีแรกภายหลัง การแปลงสภาพเป็น บมจ. อสมท เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับนักลงทุน สำหรับ ข้อมูลในรายละเอียดโปรดศึกษาจากงบการเงินที่ได้รับการตรวจสอบแล้ว ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว 1