ที่ นร 6155/2461 13 สิงหาคม 2551 เรื่อง คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับงบการเงินไตรมาสสอง ของปี 2551 เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในการประชุมครั้งที่ 11/2551 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2551 ได้มีมติอนุมัติงบการเงินไตรมาสสองของบริษัท (1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2551) ซึ่งผ่านการสอบทานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้และคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว โดยมี คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ดังนี้ คำอธิบายและวิเคราะห์งบการเงินสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 และ 2550 ผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และ บริษัทย่อย หน่วย: ล้านบาท (สอบทานแล้ว) เม.ย.- มิ.ย. เม.ย.- มิ.ย. เปลี่ยนแปลงร้อยละ 2550 2551 รายได้รวม 927 1,199 29 โทรทัศน์ 519 750 45 วิทยุ 204 218 7 ร่วมดำเนินกิจการและอื่น ๆ 204 231 13 ค่าใช้จ่ายรวม 593 649 9 กำไรสุทธิ 242 406 68 กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.35 0.59 68 หน่วย: ล้านบาท (สอบทานแล้ว) ม.ค. - มิ.ย. ม.ค. - มิ.ย. เปลี่ยนแปลงร้อยละ 2550 2551 รายได้รวม 1,768 2,129 20 โทรทัศน์ 972 1,292 33 วิทยุ 376 392 4 ร่วมดำเนินกิจการและอื่น ๆ 420 445 6 ค่าใช้จ่ายรวม 1,118 1,259 13 กำไรสุทธิ 472 641 36 กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.69 0.93 36 ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสสองของปี 2551 (เมษายน - มิถุนายน 2551) บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากธุรกิจหลัก คือ โทรทัศน์ มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น โดยเติบโตถึงร้อยละ 45 และสถานีวิทยุฯ เติบโตร้อยละ 7 ในขณะที่รายได้จากร่วมดำเนินกิจการและอื่น ๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปี 2550 ดัง รายละเอียดต่อไปนี้ ด้านโทรทัศน์ รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 45 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 เนื่องจากงบโฆษณา โดยรวมของสื่อโทรทัศน์ในช่วงไตรมาสสองของปี 2551 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วร้อยละ 6 ในขณะที่ส่วน แบ่งตลาดของโมเดิร์นไนน์ทีวีเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่สูงกว่าสถานีโทรทัศน์อื่นโดยเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ถึงร้อยละ 54 จากการปรับกลยุทธ์ในการขายให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาดอย่าง ต่อเนื่อง ประกอบกับการปรับผังรายการในช่วงปีที่ผ่านมาและเมื่อต้นปีนี้ เพื่อตอบสนองผู้ชม ได้รับ การตอบรับเป็นอย่างดี ทำให้มีนาทีการขายโฆษณาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้อัตราการใช้เวลาโฆษณา (Utilization Rate) ทั้งในช่วง Prime Time และ Non - Prime Time มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นถึงร้อยละ 93 ในช่วงไตรมาสสอง รวมทั้งจากการปรับราคาโฆษณาในรายการหลักประมาณร้อยละ 10 - 20 เมื่อ ปลายปีที่แล้วและต้นปีนี้ ทำให้รายได้ค่าโฆษณาสูงขึ้นถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ที่ผ่านมา นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสสองของปี 2551 บริษัทฯ ยังมีรายได้จากกิจกรรมพิเศษ เช่น การแสดงคอนเสิร์ต Bigbang ทาทา ยัง การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รวมถึงรายการ ต่างๆของสถานีโมเดิร์นไนน์ มีการต่อยอดออกเป็นกิจกรรมเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น อาทิ รายการ ไนน์เอ็นเทอร์เทน Meet &Greet ทุกเดือน กิจกรรม"ไนน์เอ็นเทอร์เทนอะวอร์ด" และสารคดี "แม่น้ำ โขง" ด้านวิทยุฯ รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับ โฆษณาในธุรกิจวิทยุโดยรวมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปี 2551 ร้อยละ 25 เนื่องจากบริษัทฯ มีการปรับรูปแบบของสถานีวิทยุในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคทุกสถานีเพื่อ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย รวมทั้งมีรูปแบบด้านการขาย การตลาดและการทำธุรกิจ วิทยุฯ ที่แข็งแรง นอกจากนี้สถานีวิทยุต่างๆ โดยเฉพาะ FM.97.5 Seed FM และ ลูกทุ่ง มีกิจกรรม เพิ่มมากขึ้น อาทิ Seed AWARD, Seed Meet & Greet และ มหานครอะวอร์ด เป็นต้น ค่าใช้จ่ายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2550 โดยบริษัทฯ พยายาม ควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการขายและบริหารซึ่งเพิ่มขึ้นเพียง ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโทรทัศน์และ วิทยุ ที่มีสัดส่วนร้อยละ 58 ของค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ ขาย และค่าใช้จ่ายด้านการร่วมดำเนินกิจการเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เมื่อเทียบกับปี 2550 เนื่องจากมีค่า เสื่อมราคาของอุปกรณ์ที่รับมอบเพิ่มเติมตามสัญญาร่วมดำเนินกิจการ กำไรสุทธิ ไตรมาสสองของปี 2551 มีจำนวน 406 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 68 เมื่อเทียบ กับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือ คิดเป็นเงิน 0.59 บาทต่อหุ้น และกำไรสุทธิในช่วงหกเดือน แรกของปี 2551 มีจำนวน 641 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ ผ่านมา คิดเป็น 0.93 บาทต่อหุ้น บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 8,827 ล้านบาท หนี้สิน 1,704 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 7,124 ล้าน บาท ถือได้ว่าเป็นบริษัทฯ ที่มีฐานะมั่นคง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายพลชัย วินิจฉัยกุล) ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานกฎหมาย ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ โทร. 0 2201 6388, 0 2201 6454 โทรสาร 0 2245 1854